นายชาญศิลป์ ส่งเสริม
ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวัดพระธาตุพนม "พนมวิทยาคาร"
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1
ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวัดพระธาตุพนม "พนมวิทยาคาร"
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ครูและสถานศึกษา
เรื่อง การพัฒนาและส่งเสริมทักษะการปลูกเมล่อนในโรงเรือน ตามโครงการโรงเรือนในโรงเรียน ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนบ้านฝั่งแดง (พระเทพวรมุนีอุปถัมภ์) ด้วยการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้รูปแบบรวมพลัง 5 ขั้น (Co-5 Steps)
โรงเรียนบ้านฝั่งแดง (พระเทพวรมุนีอุปถัมภ์) เป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา เปิดทำการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้น อนุบาล 2 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งสภาพชุมชนผู้ปกครองนักเรียนมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนน้อย นักเรียนส่วนใหญ่จึงมีฐานะยากจน และเป็นสังคมชนบทมีอาชีพเกษตรกรรมและอาชีพรับจ้าง เกษตรกรได้ผลผลิตน้อย จึงเป็นสาเหตุให้ชาวบ้านขาดรายได้ ยากจน บางครอบครัวต้องเข้าไปทำงานโรงงานทิ้งเด็กไว้กับผู้สูงอายุ โรงเรียนบ้านฝั่งแดง (พระเทพวรมุนีอุปถัมภ์) ตระหนักดีว่าการศึกษาเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาความรู้ความคิด คุณธรรมของเด็กและเยาวชนให้เป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพ นอกจากนี้การศึกษายังเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การประกอบอาชีพ การมีรายได้เพิ่มประสิทธิภาพของการทำงาน และการพึ่งพาตนเองได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามปัญหาความยากจนยังเป็นอุปสรรคที่ทำให้นักเรียนส่วนหนึ่งขาดโอกาสทางการศึกษา ต้องออกจากโรงเรียนกลางคันหรือไม่ได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นและเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ เสริมสร้างทักษะ มองหาความถนัดที่จะพัฒนาเป็นอาชีพต่อไปในอนาคต
จากเหตุผลและความสำคัญดังกล่าว โรงเรียนบ้านฝั่งแดง (พระเทพวรมุนีอุปถัมภ์) จึงพัฒนาและส่งเสริมทักษะด้านอาชีพให้นักเรียนได้เรียนรู้ฝึกปฏิบัติจริงจนเกิดเป็นความรู้ติดตัวและสามารถนำไปประยุกต์เพื่อประกอบอาชีพได้ สร้างการเรียนรู้ให้นักเรียนเกี่ยวกับกระบวนการทําเกษตรประณีตและมีประสบการณ์รวมทั้งปลูกฝังคุณค่าการปลูกพืชปลอดสารพิษ มีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งมีโอกาสขยายผลไปยังผู้ปกครองและชุมชนให้เห็นประโยชน์ของการรวมกลุ่มกันทําเกษตรประณีต เพื่อเกิดการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนต่อไป นอกจากนี้ สามารถพัฒนาบทบาทของตัวเองเป็นศูนย์การผลิตสินค้าเกษตรของชุมชน ช่วยเหลือส่งที่ชุมชนยังขาดทักษะด้านเทคโนโลยีเช่น การตลาด โดยพาะการตลาดออนไลน์ การออกแบบพื้นที่การเรียนรู้และความร่วมมือดังกล่าวนี้สอดคล้องกับหลักพอเพียงที่ต้องการระบบภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบในอนาคต การน้อมนําหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ควบคู่กับหลัก “บวร” หรือ บ้าน-วัด- โรงเรียน เพื่อพัฒนานักเรียนและชุมชน ทั้งด้านวัตถุและสังคม เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน ทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะ ด้านสมรรถนะของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์การเรียนรู้จากประสบการณ์จริง สามารถนําองค์ความรู้ไปพัฒนาตนเอง แก้ไขปัญหาได้ในปัจจุบันและอาจเกิดขึ้นในอนาคต ดํารงอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข และช่วยเหลือครอบครัว ชุมชนสังคมต่อไปได้อย่างยั่งยืน ในการนี้โรงเรียนบ้านฝั่งแดง (พระเทพวรมุนีอุปถัมภ์) ได้จัดทำโครงการโรงเรือนในโรงเรียนโดยการปลูกเมล่อนในโรงเรือนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสบการณ์ด้านอาชีพให้แก่นักเรียน ฝึกทักษะกระบวนการคิดในการทำงานของนักเรียนและเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต ด้วยการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยใช้รูปแบบรวมพลัง 5 ขั้น (Co-5 Steps)
ในการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบรวมพลัง 5 ขั้นตอน มีรายละเอียด ดังนี้
ขั้นเสนอสิ่งเร้าและระบุคำถามสำคัญ (Stimulating and Key Questioning Collaboratively) ครูนำเสนอสิ่งเร้าที่ เช่น วัตถุสิ่งของ วิดีทัศน์ รูปภาพ การตั้งคำถาม เปิดโอกาสให้ผู้เรียนตั้งคำถามได้ทั้งคำถามง่ายและคำถามยาก ให้ผู้เรียนคาดคะเนคำตอบอาจเป็นรายบุคคล หรือทีมด้วยการใช้วิธีต่าง ๆ
ขั้นแสวงหาสารสนเทศและวิเคราะห์อย่างรวมพลัง (Searching and Analyzing Collaboratively) ผู้เรียนทำกิจกรรมศึกษาค้นคว้าตามสื่อการเรียนรู้ที่ครูเตรียมไว้ในเวลาที่กำหนด ผู้เรียนวิเคราะห์ข้อมูล/สารสนเทศที่ได้จากกิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นรวมพลังอภิปรายและสร้างความรู้ (Discussing and Constructing Collaboratively) ครูให้แต่ละกลุ่มผู้เรียนนำเสนอผังกราฟิก ผู้เรียนร่วมกันอภิปรายผังกราฟิก ผู้เรียนแต่ละกลุ่มแก้ไขปรับปรุงข้อมูล/สารสนเทศในผังกราฟิกที่สร้างให้มีสาระความรู้ที่ถูกต้องและชัดเจน
ขั้นสื่อสารและสะท้อนคิดอย่างรวมพลัง (Communicating and Reflecting Collaboratively) ผู้เรียนเตรียมนำเสนอผลงานความรู้ที่ผ่านการแก้ไขปรับปรุงแล้ว ด้วยวิธีการบอกเล่า สะท้อนกระบวนการเรียนรู้การทำงาน ข้อเด่น ข้อด้อย จนได้บทเรียน
ขั้นรวมพลังประยุกต์และตอบแทนสังคม (Applying and Serving Collaboratively) ผู้เรียนช่วยกันนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนรู้ไปปรับใช้ในการเรียนรู้ร่วมกับสาระอื่น ๆ หรือปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การบอกเล่า การถ่ายวิดีทัศน์ การเขียนบทความ การทำโครงงาน
ผู้บริหารและคณะครูประชุมวางแผน และสร้างความเข้าใจร่วมกัน
ศึกษาแนวทางการเสริมทักษะและสร้างเสริมประสบการณ์ อาชีพให้กับนักเรียน กลุ่มพัฒนาระบบการแนะแนว สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ดำเนินงานตามโครงการผ่านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกโดยใช้รูปแบบรวมพลัง 5 ขั้น (Co-5 Steps)
นิเทศ กำกับ ติดตามการดำเนินงาน
PLC ร่วมกัน สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ประเมินผลการดำเนินการ
นำเสนอผลการดำเนิน
3.1 เชิงปริมาณ
ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ 80 ขึ้นไป มีทักษะด้านอาชีพการเกษตร การปลูกเมล่อนในโรงเรือน
3.2 เชิงคุณภาพ
ผู้เรียนเกิดทักษะด้านอาชีพการเกษตร การปลูกเมล่อนในโรงเรือน มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมกับการเรียนรู้ใหม่สร้างนวัตกรรมที่เกิดจากแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น
ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้เอง โดยใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น และสร้างประสบการณ์ใหม่จากการเรียนรู้ และเกิดแรงจูงใจในการรักษ์ถิ่นฐาน
ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทักษะความเชี่ยวชาญจากการเรียนรู้ ในการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น และชุดฝึกทักษะจากแผนการจัดการเรียนรู้
ผู้เรียนสามารถนําองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีไปใช้ในชีวิตประจําวันเพื่อพัฒนาต่อยอดแหล่งเรียนรู้ และชุมชน เช่น การประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น โดยการใช้สื่อ เทคโนโลยีที่เหมาะสม